มาดูกันครับว่าหลักการทำงานของ Switching Power Supply ทำงานยังไง มีอะไรน่าสนใจ และสวิทชิ่งพาวเวอร์ซัพพลายแต่ละประเภทนั้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นความรู้และคลายความสงสัยให้กับท่าน ก่อนที่จะไปเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้มาใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมตามการใช้งาน

หลักการทำงานของ Switching Power Supply
หลักการทำงานเบื้อต้นของ Switching Power Supply ที่หลาย ๆ คนพอจะทราบบ้างแล้วว่ามีหลักการง่าย ๆ คือ จะแปลงค่าแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) แรงดันสูง ไปเป็นแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC) แรงดันต่ำและจ่ายไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานได้ปกติ ตามฟังก์ชันของมัน แต่หากเจาะลึกลงไปกว่านั้น Switching Power Supply มีองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญใหญ่ ๆ อยู่ 3 ส่วน ดังนี้
-
วงจรฟิลเตอร์และเรกติไฟเออร์
ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไปเป็นกระแสตรง
ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับไปเป็นกระแสตรง ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไปเป็นกระแสสลับความถี่สูง และแปลงกลับไปเป็นไฟฟ้ากระแสตรง แรงดันต่ำ
โวลต์ต่ำคือส่วนสำคัญที่สุดของสวิทชิ่งพาวเวอร์ซัพพลาย ทำหน้าที่ลดแรงดันไฟฟ้าตรงค่าส่งลงมาเป็นแรงดันไฟฟ้าตรงค่าต่ำ และสามารถคงค่าแรงดันได้
คอนเวอร์เตอร์นั้นมีหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะการจัดการภายในวงจร เป็นอุกรณ์ที่มีความสำคัญเพราะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอนเวอร์เตอร์ เพื่อให้ได้แรงดัน Output ตามที่ต้องการ

ประเภทของ Switching Power Supply
สวิทชิ่งพาวเวอร์ซัพพลายนั้นจะจำแนกประเภทตามรูปแบบของคอนเวอร์เตอร์ที่ใช้ โดยรูปแบบของคอนเวอร์เตอร์ที่นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมของสวิทชิ่งพาวเวอร์ซัพพลาย จะมี 5 รูปแบบ ดังนี้
Flyback Converter
- มีลักษณะโครงสร้างของวงจรไม่ซับซ้อน อุปกรณ์น้อย ราคาไม่แพง
- มักใช้ในงานที่ต้องการกำลังไฟฟ้าออกต่ำ ๆ ไม่เกิน 150 วัตต์ ข้อเสียของคอนเวอร์เตอร์รูปแบบนี้ คือ จะมีแกนแม่เหล็กของหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกำลังไฟฟ้าด้านออกที่เพิ่มขึ้นได้
Forward Converter
- มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ Flyback Converter ต่างกันที่หม้อแปลงของ Forward Converter นั้นทำหน้าที่ส่งผ่านพลังงานในช่วงที่พาวเวอร์ทรานซิสเตอร์นำกระแส
- นิยมใช้กับกำลังไฟฟ้า 100-200 วัตต์ แกนแม่เหล็กมีขนาดเล็ก ข้อเสียของคอนเวอร์เตอร์รูปแบบนี้ คือ แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมสวิตช์มีค่าสูง และต้นทุนการผลิตสูง
Push-Pull Converter
- มีลักษณะการทำงานเหมือนนำ Forward Converter 2 ชุดมาทำงานร่วมกัน ผลัดกันทำงานในแต่ละครึ่งควบเวลา
- สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าได้สูง 200-1,000 วัตต์ ข้อเสียของคอนเวอร์เตอร์รูปแบบนี้ คือ แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมที่สวิตช์มีค่าสูง และฟลั๊กในแกนแม่เหล็กไม่มีความสมมาตรทำให้แกนแม่เหล็กเกิดการอิ่มตัว ส่งผลให้พาวเวอร์ทรานซิสเตอร์พังเสียหายได้ง่าย
Half-Bridge Converter
- อยู่ในตระกูลเดียวกับ Push-Pull Converter มีลักษณะการจัดการวงจรที่ทำให้พาวเวอร์ทรานซิสเตอร์มีแรงดันตกคร่อมขณะหยุดนำกระแสเพียงแค่คาแรงดัน Input และไม่มีปัญหาการไม่สมมาตรของฟลั๊กเหมือนกับ Push-Pull Converter
- นิยมใช้กับกำลังไฟฟ้าขนาดกลาง
Full-Bridge Converter
- คอนเวอร์เตอร์ชนิดนี้มีแรงดันตกคร่อมเท่ากับแรงดัน Input แต่แรงดันตกคร่อมพาวเวอร์ทรานซิสเตอร์มีค่าครึ่งเดียวของแรงดัน Input เท่านั้น และค่ากระแสสูงสุดของพาวเวอร์ทรานซิสเตอร์แต่ละตัวมีค่าเพียงครึ่งหนึ่งของคากระแสสูงสุดของ Half-Bridge Converter ที่กำลังขาออกเท่ากัน เพราะข้อจำกัดด้านพาวเวอร์ทรานซิสเตอร์นั้นลดลง
- สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าที่มีค่าสูง 500-1,000 วัตต์
บทความอื่นที่น่าสนใจ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
LINE : @rannotebook
Tel : 080-1305732
ขอใบเสนอราคา : dell.rannotebook@gmail.com
